เลี้ยงลูกอย่างไรให้ปลอดภัยห่างไกลโรคหัวใจ
โรคหัวใจที่พบบ่อยในผู้ป่วยเป็นอย่างไร
- ในปัจจุบัน อุบัติการณ์ของโรคหัวใจขาดเลือดในคนไทยสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญสาเหตุหนึ่ง เป็นภาวะที่หัวใจขาดเลือดมาเลี้ยงหรือเลือดไหลเข้าสู่กล้ามเนื้อหัวใจลดลง ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากผนังหลอดเลือดแดงที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจแข็งตัวและมีการตีบตัน ในประเทศไทยยังไม่มีการศึกษา อุบัติการณ์ที่แน่นอน แต่จากการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า มีชาวอเมริกันหัวใจวายจากโรคนี้ปีละ 1.5 ล้านคน โดยที่ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยเหล่านี้ไม่เคยมีอาการนำมาก่อนและ 1 ใน 3 ของพวกที่มีอาการครั้งแรกนี้มีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต มีการคาดคะเนว่าเมื่อคนไทยรับวัฒนธรรมการกินอยู่ของประเทศทางตะวันตกกันมากขึ้น อุบัติการณ์ของโรคนี้ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
- ข่าวดีก็คือเราสามารถลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดได้สำหรับตัวเราเองหรือลูกหลานของเรา โดยการเสริมสร้างอุปนิสัยและพฤติกรรมการกินอยู่ที่เหมาะสม โดยเฉพาะถ้าสามารถปลูกฝังได้ ตั้งแต่เด็กๆ ก็จะก่อให้เกิดผลดีเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดมีมากมายหลายอย่าง บางอย่างก็หลีกเลี่ยงป้องกันได้ บางอย่างก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังต่อไปนี้
- อายุและเพศ ผู้ชายจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้เร็วกว่าผู้หญิง และยิ่งอายุมากขึ้นโอกาสจะเกิดโรคนี้ก็มากขึ้น
- มีพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคหัวใจขาดเลือด ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่ง เป็นโรคนี้ก่อนอายุ 55 ปีในผู้ชายหรือ 65 ปี ในผู้หญิง อัตราเสี่ยงของการเกิดโรคนี้จะสูงขึ้น
- เป็นโรคเบาหวาน โรคเบาหวานบางชนิดจะเริ่มมีอาการตั้งแต่เด็กหรือวัยรุ่น การวินิจฉัยโรคนี้ตั้งแต่เริ่มแรกและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี จึงมีความสำคัญในการลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
- การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคภัยหลายชนิด เช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคสมองขาดเลือด โรคมะเร็ง โรคถุงลมโป่งพอง พบว่า คนที่สูบบุหรี่จะมีอัตราตายจากหัวใจวาย สูงกว่าคนไม่สูบบุหรี่ถึง 2-4 เท่า ดังนั้นการอบรมลูกหลานของท่านให้เห็นพิษภัยของบุหรี่ และตัวท่านเองควรเป็นตัวอย่างที่ดีในการไม่สูบบุหรี่ จึงมีความสำคัญมาก
- ลักษณะการทำงานและการออกกำลัง พบว่าการทำงานนั่งโต๊ะจะเพิ่มอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด 2 เท่า คนที่เฉื่อยชาไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวของร่างกายมีโอกาสจะเป็นโรคอ้วน ซึ่งเพิ่มอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ดังนั้นการฝึกฝนให้ลูกหลานของท่านมีความว่องไว กระฉับกระเฉงและส่งเสริมให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดอุบัติการณ์ของการเกิดโรคนี้ได้ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
- ความดันโลหิต ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด เราอาจจะพบความดันโลหิตสูงในเด็กได้ ดังนั้น จึงควรให้ลูกหลานของท่าน ได้รับการตรวจวัดความดันโลหิตอย่างน้อยปีละครั้ง
- ความอ้วนและระดับไขมันในเลือด พบว่า อาหารที่มีไขมันและโคเลสเตอรอลสูง และมีกากน้อย จะเพิ่มอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภท หมูสามชั้น มันหมู กะทิ เนย เด็กที่มีน้ำหนักเกินพิกัดจะทำให้หัวใจต้องทำงานหนัก รวมทั้งมีผลให้ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และเป็นเบาหวานได้ง่าย จึงยิ่งเพิ่มปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด การป้องกันไม่ให้อ้วนตั้งแต่เด็ก จึงมีความสำคัญในการป้องกันโรคนี้เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
เราสามารถป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดในลูกหลานของเราได้ดังนี้
- ตรวจวัดความดันโลหิตอย่างน้อยปีละครั้ง
- ดูแลไม่ให้สูบบุหรี่
- ไม่ปล่อยให้อ้วนจนเกินไป และมีระดับโคเลสเตอรอลสูง
- ส่งเสริมให้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายมีความสำคัญสำหรับเด็กอย่างไร?
- การที่ร่างกายของเด็กๆ มีการเคลื่อนไหว หรือการออกกำลังกายจะช่วยทำให้การเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ ให้มีความแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถควบคุมน้ำหนักได้ดี ทำให้ความดันโลหิตปกติ ช่วยลดความเครียดและเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่กระฉับกระเฉง
- สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ล้วนแต่ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดทั้งสิ้น พ่อแม่มีส่วนช่วยในการเลี้ยงดูลูกๆ อย่างไรให้กระฉับกระเฉง
- จำกัดเวลาดูโทรทัศน์และเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ ไม่ให้เกินวันละ 2 ชั่วโมง พยายามส่งเสริมการออกกำลังกายในแต่ละวัน
- วางแผนพาลูกๆ ไปเล่นกีฬาในวันหยุด เช่น ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน หรือเดินเล่นในสวนสาธารณะ
- มอบหมายให้ลูกๆ ทำงานบ้านบางอย่างที่เหมาะสมกับวัย เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ทิ้งขยะ ตัดหญ้า ซึ่งนอกจากปลูกฝังนิสัยเรื่องความรับผิดชอบแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้แรงงานอีกด้วย
- สังเกตว่าลูกๆ ของท่านชอบเล่นกีฬาประเภทใด และพยายามส่งเสริมอย่างที่ชอบ แต่ให้สังวรณ์ไว้ว่า มีกีฬาบางอย่างที่เด็กๆ สามารถเล่นไปได้เรื่อยๆ จนเป็นผู้ใหญ่ เช่น เทนนิส ว่ายน้ำ ในขณะที่กีฬาที่เล่นเป็นทีม โอกาสที่จะเล่นเมื่อเป็นผู้ใหญ่จะน้อยลง เช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอล
- ให้ของขวัญที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา เช่น ไม้ปิงปอง ลูกฟุตบอล ไม้เทนนิส กางเกงว่ายน้ำ เป็นต้น
- ใช้วิธีเดินหรือขี่จักรยานแทนการนั่งรถ ถ้าคิดว่าปลอดภัยเพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการใช้บันไดเลื่อนหรือลิฟท์ ให้เดินขึ้นบันไดแทน
- พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกๆ ในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ที่มา : รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ โค้วสถิตย์ มูลนิธิเด็กโรคหัวใจ

ขอเชิญผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินให้โครงการต่างๆ ของมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก (ดูรายละเอียด คลิ๊กที่รูปนะคะ)